บล็อกสำหรับผู้ชอบภาษาอังกฤษ เชิญครับ !!!! Developed by นายศราวุฒิ มินธง/ ครูโรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม จ.ลำพูน /สังกัด สพม.ลป.ลพ.
04 มีนาคม 2564
05 กรกฎาคม 2558
พฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของประชากรโลก.
โลกในอุ้งมือโซเชียลมีเดีย
หัวข้อเรื่องของวันนี้ จากผลสำรวจพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของประชากรโลกใน พ.ศ.นี้ได้อย่างชัดเจนที่สุด กล่าวคือ
จากผลสำรวจที่นำเสนอโดย โก-โกลบดอทคอม (www.go-globe.com )พบว่า ปัจจุบัน ชาวโซเชียลมีเดียทั่วโลก ใช้เวลาแต่ละวันกับเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยม รวมกันแล้วเท่ากับเวลา 39,757 ปีเลยทีเดียว ในส่วนของทวิตเตอร์ ก็มียอดทวีตข้อความข่าวสารมากกว่า 500 ล้านข้อความต่อวัน
โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน จากตัวอย่างพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ ซึ่งเดิมทุกๆ เช้าต้องหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านเพื่อติดตามข่าวสารให้ทันโลก แต่ปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 16%ของคนกลุ่มนี้ หันมาเกาะติดข่าวสารทุกเช้าผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ อย่างเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์แทน ขณะที่หลายๆ คนต่างดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นด้านสังคม/การสื่อสารมาไว้ในสมาร์ทโฟน เพื่อเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์และข่าวสารได้สะดวกรวดเร็วทันใจ
ความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการเสพสื่อ ยังขยายวงกว้างออกไปนอกเหนือจากเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร ครอบคลุมไปถึงเนื้อหาที่เป็นรูปภาพ หรือภาพและเสียง (วิดีโอ) ทุกวันนี้อินสตาแกรม มียอดผู้ใช้งานดาวน์โหลดภาพถ่ายขึ้นมาไว้บนเครือข่ายราว 5 ล้านภาพต่อวัน ชาวโซเชียลหันมารับชมวิดีโอผ่านยูทูบมากขึ้น มีตัวเลขเฉลี่ยคร่าวๆ ว่า แต่ละวันผู้ใช้โซเชียลทุกเครือข่าย ต้องแวะเข้าไปดูยูทูบไม่ต่ำกว่า 15 นาที
เมื่อมองตัวเลขรวมของประชากรชาวโซเชียล ล่าสุดมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านคน (จำนวนนี้คือผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลอย่าสม่ำเสมอ) และแน่นอนว่าเครือข่ายโซเชียลรายใหญ่สุด ก็คือ เฟซบุ๊ก ด้วยจำนวนผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคน
หันมาจับตามองผู้ใช้ไอโฟน สมาร์ทโฟนสุดยอดปรารถนาของชาวโซเชียลแทบทุกคน พบว่า 28%ของผู้ใช้งานเช็กข่าวสารบนทวิตเตอร์เป็นสิ่งแรก หลังตื่นนอนทุกเช้า นอกจากนี้ การแพร่กระจายของตลาดสมาร์ทโฟน ที่มีให้เลือกซื้อเป็นเจ้าของอย่างหลากหลายยี่ห้อ และช่วงราคา ก็ยังได้สร้างประชากรชาวโซเชียลรุ่นใหม่วัยทีน ให้เป็นกลุ่มที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน 24%ของประชากรวัยใส จะอยู่ติดกับหน้าจอโซเชียลแทบตลอดเวลา
โดยค่าเฉลี่ยของใช้เวลาในการเล่นโซเชียลมีเดีย ของคนอายุ 15-19 ปี อยู่ที่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ อายุ 20-29 ปี อยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน และปัจจุบัน เฟซบุ๊ก เป็นโซเชียลมีเดียที่ครองใจชาวโซเชียลวัยใส ส่วนเครือข่ายสังคมออนไลน์ อันดับรองลงมาก็คือ อินสตาแกรม
มาถึงบรรทัดนี้ ผู้อ่านทั้งหลายคงมองเห็นภาพชัดขึ้นแล้วว่า ทุกวันนี้โลกทั้งใบกำลังตกอยู่ในอุ้งมือสื่อโซเชียล ซึ่งหมุนฟันเฟืองขับเคลื่อนข้อมูลข่าวสาร และอิทธิพลในการใช้ชีวิตประจำวัน เข้ามาครอบงำผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย อย่างเงียบๆ แต่ทรงพลัง.
-----------------------
25 ธันวาคม 2555
05 เมษายน 2555
03 มกราคม 2555
20 พฤศจิกายน 2554
ใบงานเก็บคะแนน ประจำเดือนพฤศจิกายน ม.4-5
Name ……………………………………………………………………………………………………………… Class M. …./…. NO. ……
ใบงานเก็บคะแนน ประจำเดือนพฤศจิกายน วิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ม.ปลาย
A : ให้นักเรียนเรียงประโยคให้ถูกต้องแล้ว เขียนคำตอบโดยใช้คำในวงเล็บเป็นแนวการตอบ
Example: do / the / often / How / laundry / you / do? (never)
Question: How often do you do the laundry?
Answer: I never do the laundry.
1. walk / Nick / does / How / often / school / to ? (always)
Question: …………………………………………………………………………………………
Answer: …………………………………………………………………………………………
2. play / piano / often / How / Kim / the / does ? (every day)
Question: …………………………………………………………………………………………
Answer: …………………………………………………………………………………………
3. make / their cell phones / How / friends / often / do / your / calls / from ? (often)
Question: ……………………………………………………………………………………
Answer: ……………………………………………………………………………………
4. How / room / your / clean / do / often / you ? (once a week)
Question: …………………………………………………………………………………
Answer: …………………………………………………………………………………
5. How / do / you / go / to / bed / late/ often ? ( three times a week)
Question: ………………………………………………………………………………
Answer: ………………………………………………………………………………
B : ให้นักเรียนนำคำที่กำหนดมาให้เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
busy sleepy surprised spicy bored happy
1. She wants to go to bed. She’s very ………………………………… .
2. I can’t go out on Friday. I’m …………………………………. .
3. I cleaned my room, and it’s very neat . My mother was …………………………. .
4. I didn’t like the soup. It was too ………………………….. .
5. All my friends are away. I’m ………………………………. .
C : ให้นักเรียนเติม could หรือ couldn’t + Verb ในวงเล็บให้ถูกต้องตามหลักการใช้
1. Emily …………………………………..…… (make) a salad because there wasn’t any lettuce.
2. I ……………………………….………………(eat) the soup because it was too spicy.
3. She ……………………………(buy) a new skirt because her mother gave her the money for it.
4. They …………………………….. (sleep) because their neighbors played loud music all night.
5. I…………………………(take) DVDs from the library because I had my library card with me.
D : ให้นักเรียนวงกลมคำที่ไม่เข้าพวก
1. winter spring warm summer
2. warm hot cool scenery
3. eat run buy small
4. spicy delicious cold sweet
5. clean make much smile
6. toy earring bracelet chain
7. gloves perfume belt scarf
8. never good sometimes usually
9. fireman doctor vet light
10. match kittens dog mouse
E : ให้นักเรียนเลือกจับคู่คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน โดยนำอักษร a , b , c มาเติมหน้าข้อที่ถูกต้อง
1. ………………….. cheap a. light
2. …………………..clean b. expensive
3. …………………..heavy c. bad
4. …………………..good d. difficult
5. …………………..easy e. dirty
F : ให้นักเรียนเติม V2 + V3 ในตารางให้ถูกต้อง
ข้อ | V1 | V2 | V3 | ข้อ | V1 | V2 | V3 |
1 | drive | 6 | build | ||||
2 | find | 7 | wear | ||||
3 | draw | 8 | ring | ||||
4 | catch | 9 | pay | ||||
5 | leave | 10 | feed |
17 กรกฎาคม 2554
เกมลับสมอง
เชิญชวนเล่นเกมลับสมองครับ
กติกา
หากใครสามารถหาทางออกให้น้อง joker ได้
ผู้ส่งคำตอบคนแรก print - out มาแล้ว
ติดต่อขอรับรางวัลได้เลยนะครับ
ติดต่อทางอีเมล์นี้นะครับ theminthong@gmail.com
ด่วน! นะครับ
(เฉพาะคนแรกที่ส่งคำตอบที่ถุกต้องมาเท่านั้นนะครับ)
กติกา
หากใครสามารถหาทางออกให้น้อง joker ได้
ผู้ส่งคำตอบคนแรก print - out มาแล้ว
ติดต่อขอรับรางวัลได้เลยนะครับ
ติดต่อทางอีเมล์นี้นะครับ theminthong@gmail.com
ด่วน! นะครับ
(เฉพาะคนแรกที่ส่งคำตอบที่ถุกต้องมาเท่านั้นนะครับ)
30 พฤษภาคม 2554
กลอนดีๆครับ
เก่งน้อยค่อยบรรจงหมั่นฝึกฝน
ใจอดทนพากเพียรเรียนศึกษา
แม้นเหนื่อยยากบากบั่นมิเลิกรา
ใจสั่งว่าอย่าท้อ สู้ต่อไป
อันหนทางที่ยาวไกลหลายหมื่นลี้
ยังเริ่มที่หนึ่งก้าวใช่หรือไม่
แม้วันนี้ถึงจุดหมายยังอยู่ไกล
ขอแค่ใจไม่ยอมแพ้แค่นั้นพอ.
ใจอดทนพากเพียรเรียนศึกษา
แม้นเหนื่อยยากบากบั่นมิเลิกรา
ใจสั่งว่าอย่าท้อ สู้ต่อไป
อันหนทางที่ยาวไกลหลายหมื่นลี้
ยังเริ่มที่หนึ่งก้าวใช่หรือไม่
แม้วันนี้ถึงจุดหมายยังอยู่ไกล
ขอแค่ใจไม่ยอมแพ้แค่นั้นพอ.
ใครว่า "เด็กท่องจำ" จะคิดไม่เป็น
การที่ผู้ใหญ่บางส่วนเห็นว่าเด็กที่เอาแต่ท่องจำ จะเป็นเด็กที่คิดไม่เป็น เหตุเพราะสมองจดจำได้ก็เลยทำให้กระบวนการวิเคราะห์ไม่ทำงาน ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากการที่มนุษย์สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้มากมายจะช่วยให้เกิดกระบวนการคิดที่เป็นระบบและเชื่อมโยงเป็นเรื่องราวได้ หลายประเทศจึงตื่นตัวกับการใช้ทักษะความจำอย่างสูง ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย "สมาคมความคิดสร้างสรรค์และความจำและการเล่น" จึงขอเป็นแม่งานในการจัดการแข่งขันความจำแห่งประเทศไทย (Thailand Open Memory Championships 2010) ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
"ธัญญา ผลอนันต์" นายกสมาคมความคิดสร้างสรรค์และความจำและการเล่น เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการแข่งขันความจำว่า สังคมไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความจำกันน้อย เพราะเราเชื่อกันว่า "เด็กไทยดีแต่จำ คิดไม่เป็น" จึงส่งเสริมให้เด็กฝึกแต่การคิดคำนวณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความจำกับความคิดเป็นของคู่กัน ถ้าเราจำไม่ได้ก็จะคิดไม่ออก ดังนั้นจะบอกให้เด็กจำอย่างเดียวก็จะไม่เกิดการเรียนรู้ จะต้องสอนให้เด็กจำและต้องคิดตามไปด้วย
"สังคมไทย ณ ตอนนี้กำลังก้าวไปสู่ยุคของการสร้างสรรค์และต้องการกระบวนการคิดที่มาจากการจดจำ ซึ่งการฝึกความจำเป็นเรื่องที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และยังสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การจำแบบเชื่อมโยงโดยใช้จินตนาการเป็นตัวเสริม การจำตัวเลขก็อาจจะจำว่า เสาธง คือเลข 1, ห่าน คือ เลข 2, ปิระมิด คือ เลข 3....เห็นได้ว่าการที่จะสามารถจำได้นั้น จะต้องหาจุดเชื่อมโยงให้ได้ก่อน จากนั้นก็แต่งเป็นเรื่องราวต่างๆ ให้น่าจดจำ"
"อีกวิธีหนึ่งคือ การจำจากสิ่งของที่เรามีว่า เรานำมันไปวางไว้ที่ไหน ตอนไหน อย่างไร ยกตัวอย่าง การที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็จำว่าเราถ่ายรูปที่ไหน เขียนบันทึกที่จังหวัดอะไร หรือแวะซื้อของที่ไหนเป็นต้น หรือวิธีสุดท้ายที่ง่ายที่สุด โดยสามารถทำได้ที่บ้าน คือ การจำสิ่งของที่อยู่ภายในบ้านว่าของแต่ละชิ้นวางไว้ตรงไหนบ้าง ซึ่งจะช่วยเรื่องความจำและความสะดวกสบายในการหยิบสิ่งของมาใช้" นายกสมาคมฯ อธิบาย
การฝึกความจำควรหัดตั้งแต่เด็กที่เริ่มพูดได้ เพราะเขาจะได้ฝึกนำคำศัพท์ที่รู้จักมาเชื่อมโยงในเรื่องราวที่เขาจำด้วย และนำไปใช้ในการเรียนที่โรงเรียนได้ โดยเฉพาะวิชาที่อาศัยความจำ เช่น ประวัติศาสตร์หรือแม้กระทั่งวิชาคำนวณที่ต้องใช้สูตรต่างๆ และสามารถตอบคำถามที่เป็นนามธรรมได้ เพราะการฝึกเรื่องความจำนั้น เราจะฝึกโดยการนึกเป็นภาพก่อน ฉะนั้นเมื่อเจอคำถามนามธรรมก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ฝึกการใช้ความจำอยู่เสมอ ตราบใดที่การจำนั้นมีความสนุกก็จะทำให้การเชื่อมโยงต่อเนื่องและสามารถจำข้อมูลได้ทั้งหมด
"ธัญญา ผลอนันต์" นายกสมาคมความคิดสร้างสรรค์และความจำและการเล่น เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการแข่งขันความจำว่า สังคมไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความจำกันน้อย เพราะเราเชื่อกันว่า "เด็กไทยดีแต่จำ คิดไม่เป็น" จึงส่งเสริมให้เด็กฝึกแต่การคิดคำนวณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความจำกับความคิดเป็นของคู่กัน ถ้าเราจำไม่ได้ก็จะคิดไม่ออก ดังนั้นจะบอกให้เด็กจำอย่างเดียวก็จะไม่เกิดการเรียนรู้ จะต้องสอนให้เด็กจำและต้องคิดตามไปด้วย
"สังคมไทย ณ ตอนนี้กำลังก้าวไปสู่ยุคของการสร้างสรรค์และต้องการกระบวนการคิดที่มาจากการจดจำ ซึ่งการฝึกความจำเป็นเรื่องที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และยังสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การจำแบบเชื่อมโยงโดยใช้จินตนาการเป็นตัวเสริม การจำตัวเลขก็อาจจะจำว่า เสาธง คือเลข 1, ห่าน คือ เลข 2, ปิระมิด คือ เลข 3....เห็นได้ว่าการที่จะสามารถจำได้นั้น จะต้องหาจุดเชื่อมโยงให้ได้ก่อน จากนั้นก็แต่งเป็นเรื่องราวต่างๆ ให้น่าจดจำ"
"อีกวิธีหนึ่งคือ การจำจากสิ่งของที่เรามีว่า เรานำมันไปวางไว้ที่ไหน ตอนไหน อย่างไร ยกตัวอย่าง การที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็จำว่าเราถ่ายรูปที่ไหน เขียนบันทึกที่จังหวัดอะไร หรือแวะซื้อของที่ไหนเป็นต้น หรือวิธีสุดท้ายที่ง่ายที่สุด โดยสามารถทำได้ที่บ้าน คือ การจำสิ่งของที่อยู่ภายในบ้านว่าของแต่ละชิ้นวางไว้ตรงไหนบ้าง ซึ่งจะช่วยเรื่องความจำและความสะดวกสบายในการหยิบสิ่งของมาใช้" นายกสมาคมฯ อธิบาย
การฝึกความจำควรหัดตั้งแต่เด็กที่เริ่มพูดได้ เพราะเขาจะได้ฝึกนำคำศัพท์ที่รู้จักมาเชื่อมโยงในเรื่องราวที่เขาจำด้วย และนำไปใช้ในการเรียนที่โรงเรียนได้ โดยเฉพาะวิชาที่อาศัยความจำ เช่น ประวัติศาสตร์หรือแม้กระทั่งวิชาคำนวณที่ต้องใช้สูตรต่างๆ และสามารถตอบคำถามที่เป็นนามธรรมได้ เพราะการฝึกเรื่องความจำนั้น เราจะฝึกโดยการนึกเป็นภาพก่อน ฉะนั้นเมื่อเจอคำถามนามธรรมก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่ฝึกการใช้ความจำอยู่เสมอ ตราบใดที่การจำนั้นมีความสนุกก็จะทำให้การเชื่อมโยงต่อเนื่องและสามารถจำข้อมูลได้ทั้งหมด
06 เมษายน 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
คุณภาพผู้เรียนที่จบหลักสูตร กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม สำหรับนักเรียนชั้น ม.3 และ ม. 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างป...
-
ใบความรู้ที่ 1 จุดประสงค์ : อ่านเรื่อง Christmas Day แล้วเขียนเรื่องย่อได้ เวลา : 25 นาที ข้อปฏิบัติ : 1. แต่ละกลุ่มค้นหาความหมายของศัพ...