09 มิถุนายน 2553

ใบงานการใช้ภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ม.ต้น

Name : ………………………………………………………….………… Class M. .../... No …………


ใบงานวิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.ต้น

A : ให้นักเรียนเรียงประโยคให้ถูกต้องแล้ว เขียนคำตอบโดยใช้คำในวงเล็บเป็นแนวการตอบ

Example: do / the / often / How / laundry / you / do? (never)

Question: How often do you do the laundry?

Answer: I never do the laundry.

1. walk / Nick / does / How / often / school / to ? (always)

Question: ………………………………………………………………………………………………

Answer: ………………………………………………………………………………………………

2. play / piano / often / How / Kim / the / does ? (every day)

Question: ……………………………………………………………………………………………

Answer: ……………………………………………………………………………………………

3. make / their cell phones / How / friends / often / do / your / calls / from ? (often)

Question: ……………………………………………………………………………………………

Answer: ……………………………………………………………………………………………

4. How / room / your / clean / do / often / you ? (once a week)

Question: …………………………………………………………………………………………

Answer: …………………………………………………………………………………………



B : ให้นักเรียนนำคำที่กำหนดมาให้เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

busy       sleepy       surprised       spicy       bored

1. She wants to go to bed. She’s very ………………………………… .

2. I can’t go out on Friday. I’m …………………………………. .

3. I cleaned my room, and it’s very neat . My mother was ………………………………. .

4. I didn’t like the soup. It was too ………………………….. .

5. All my friends are away. I’m ………………………………. .



C : ให้นักเรียนเติม could หรือ couldn’t และใช้คำในวงเล็บด้วย

1. Emily …………………………………..……. (make) a salad because there wasn’t any lettuce.

2. I ……………………………………………... (eat) the soup because it was too spicy.

3. She …………………………………..…… (buy) a new skirt because her mother gave her the money for it.

01 มิถุนายน 2553

คุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตร พ.ศ. 2551

คุณภาพผู้เรียนที่จบหลักสูตร กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม
 สำหรับนักเรียนชั้น ม.3  และ  ม. 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ




ทำไมต้องเรียนภาษาต่างประเทศ

ในสังคมโลกปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้
การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรีและความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต
ภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐาน ซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น อาหรับ บาลี และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือภาษาอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะจัดทำราย
วิชาและจัดการเรียนรู้ตามความเหมาะสม



เรียนรู้อะไรในภาษาต่างประเทศ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ประกอบด้วยสาระสำคัญ ดังนี้

• ภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม

• ภาษาและวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพันธ์ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับวัฒนธรรมไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม
• ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน

• ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อประกอบอาชีพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก

คุณภาพผู้เรียน
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

• ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา นิทาน และบทร้อยกรองสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ/เขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก/ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว
เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ใช้คำขอร้อง คำชี้แจง และคำอธิบาย ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

• พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรื่อง/ประเด็นต่างๆ
ที่อยู่ในความสนใจของสังคม พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมให้เหตุผลประกอบ

• เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณี
เจ้าของภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

• เปรียบเทียบ และอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบและ อธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ
ของไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม

• ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจาก
แหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

• ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม

• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อ
และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น เป็นภาษาต่างประเทศ

• มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ ) เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเที่ยว การบริการ สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคำศัพท์ประมาณ ๒,๑๐๐-๒,๒๕๐ คำ (คำศัพท์ที่เป็นนามธรรมมากขึ้น)

• ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน (Complex Sentences) สื่อความหมายตามบริบทต่างๆ
ในการสนทนาทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ


จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖

• ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้นถูกต้องตามหลักการอ่าน อธิบายและเขียนประโยคและข้อความสัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน
จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่อง
ที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

• สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม เลือกและใช้คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบาย และให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตุผล

• พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่องและประเด็นต่างๆ ตามความสนใจ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และสถานการณ์ตามความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทั้งในท้องถิ่น สังคม และโลก พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ

• เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล เวลา โอกาสและสถานที่ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม

• อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล

• ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน

• ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม

• ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสาร ของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ

• มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ ) เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องดื่ม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเที่ยว การบริการ สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคำศัพท์ประมาณ ๓,๖๐๐-๓,๗๕๐ คำ (คำศัพท์ที่มีระดับการใช้แตกต่างกัน)

• ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อนสื่อความหมายตามบริบทต่างๆ ในการสนทนา ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ

21 มีนาคม 2553

สื่อการสอนเรื่อง การทักทาย 1

Christmas Day

ใบความรู้ที่ 1
จุดประสงค์ : อ่านเรื่อง Christmas Day แล้วเขียนเรื่องย่อได้
เวลา : 25 นาที
ข้อปฏิบัติ :
1. แต่ละกลุ่มค้นหาความหมายของศัพท์จากพจนานุกรม
2. สมาชิกในกลุ่มช่วยกันแปลเนื้อเรื่องให้ได้ความ แล้วทำแบบฝึกหัดในใบงาน


Christmas Day

Christmas Day is the most famous and best – loved holiday in America and many other parts of the world. It’s celebrated a little differently in every country, but the main reason for celebrating it is the same everywhere.

On December 25th 2002 years ago. Jesus Christ, The Son of God, was born in the town of God, was born in the town of Bethlehem. Mary, the mother of Jesus, and her husband Joseph were travelling, and they stopped for the night at an inn. There was no room at the inn, so they slept in the stable.

That night in the stable, the baby Jesus was born. After his birth, a strange and wonderful thing happened. A very bright star appeared in the sky. Three wise men from far away followed the light from this star and came to the stable where Jesus Christ lay.

They brought many presents with them, for they knew that Jesus had been sent from God to be their leader. Many shepherds came from the field around Bethlehem to see the new baby, and they, too, knew that Jesus was a special baby sent from God.
Jesus grew up to be a very kind, gentle, and wise man who spent his life telling people about God’s love, and teaching them how to lead a good life.

After his death, a new religion grew up which followed his teaching and was named after him; Christianity.

คำศัพท์:

best-loved
differently
reason
husband inn
stable
wonderful
appeared
followed
lead
present
shepherds
grew up
gentle
kind
wise
religion


ใบงานที่ 1.1
ชื่อ ……………………………………….…..เลขที่………..…ห้อง……………..……
เรื่อง Christmas Day

แบบฝึกหัดที่ 1


เขียนความหมายของศัพท์ต่อไปนี้

1. best-loved =

2. presents =
3. differently =

4. shepherds =
5. reason =

6. grew up =
7. husband
=
8. kind =
9. inn =

10. gentle =
11. stable =

12. wise =
13. wonderful =

14. spent =
15.eared =

16.lead =
17.lowed =

18. religion =


แบบฝึกหัดที่ 2
จงเขียนเนื้อเรื่องย่อเป็นภาษาไทยให้ถูกต้อง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………



ใบงานที่ 1.2
ชื่อ ……………………………………….…..เลขที่………..…ห้อง……………..……

เรื่อง Christmas Day

แบบฝึกหัดที่ 3

จงเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. The ……………… love Christmas Day.
2. Christmas Day is a ……………………. for many people.
3. People ………………………. happily on this day.
4. Christmas Day is always on ……………………………
5. It was the day that Jesus Christ was ………………………
6. Jesus Christ’s mother was ………………………….
7. Joseph and Mary were ……………………. and wife.
8. Jesus Christ was born in the ………………………
9. There were …………………… strange and wonderful things happened.
10. The wise men brought ………………. to the new baby.

แบบฝึกหัดที่ 4

จงเขียน T หน้าข้อความที่ถูก เขียน F หน้าข้อความที่ผิด

…….. 1. People celebrate Christmas Day in America only.
…….. 2. Christmas Day is very famous in America.
…….. 3. Christmas Day is on December 24th every year.
…….. 4. In fact, Jesus Christ was the Son of God.
…….. 5. Jesus Christ was born in Bethlehem.
…….. 6. A bright star guided the 3 wise men to the new baby.
…….. 7. Only shepherds came to see the new baby.
…….. 8. Jesus Christ was kind, wise and gentle.
…….. 9. A new religion grew up before Jesus Christ died.
……..10. Christmas believed in God.

17 มีนาคม 2553

ค่ายคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน ชั้น ม.5 ปีการศึกษา 2552

ค่ายคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม
ณ วัดพระธาตุดอยเวียง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน วันที่ 10-11 ธันวาคม 2552


โดยครูเอ้


นักเรียนชั้น ม.5 ออกเดินทางจากโรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคมเพื่อมุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุดอยเวียง

ต. บ้านธิ อ .บ้านธิ จ.ลำพูน และมีคุณครูผู้ควบคุมและเป็นที่ปรึกษา คือ รองฯช่อผกา ครูบุญยก ครูประเสริฐ ครูธีรนันท์ ครูศิราพร ครูรสสุคนธ์ และครูศราวุฒิ
ก่อนอื่นขอเล่าประวัติวัดนี้ย่อๆ คือ วัดแห่งนี้ห่างจากตัวอำเภอบ้านธิ ประมาณ 7 กิโลเมตร บริเวณใกล้กับ
อ่างเก็บน้ำแม่ธิ มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ และบนดอยเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์เก่าแก่ซึ่งมีพระสารีริกธาตุบรรจุอยู่ สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1220 ในสมัยพระนางจามเทวี ตามตำนานจารึกในใบลานเล่าว่า ขุนหลวงปาละวิจา มาตั้งเมืองที่นี่ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านและได้สร้างวัดไว้บนดอย ต่อมาถูกไฟป่าไหม้ลุกลาม ทำให้เหลือแต่เจดีย์และศาลาเล็ก ๆ หลังหนึ่ง วัดนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีก 3 องค์ องค์แรกเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนเลยนำพระองค์นี้มาแห่ขอฝน ปรากฏว่าฝนตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า “พระเจ้าสายฝน” องค์ที่สองหน้าตักกว้าง 99 นิ้ว ประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญ ส่วนองค์ที่สามหน้าตักกว้าง 89 นิ้วประดิษฐานที่เชิงดอย ทั้งสององค์ข้างในเป็นศิลาแลงและข้างนอกฉาบปูน สมัยที่ค้นพบนั้นเหลือไม่เต็มองค์เศียรปักดินชาวบ้านจึงเรียกว่า “พระเจ้าดำดิน” ชั้นบนสุดของดอยเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ธาตุดอยเวียง และทุก ๆ ปีในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดนี้มีพระครูภาวนาพินิจเป็นเจ้าอาวาส
ท่านพระครูภาวนาพินิจ เป็นพระวิทยากรในการจัดค่ายนี้ เริ่มจากมีพิธีเปิดค่ายในเวลาประมาณ 10.00 น. พระวิทยากรจัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งตั้งกติการ่วมกับนักเรียนถึงการปฏิบัติตนในการอยู่ค่ายนี้ 2 วัน 1 คืน กิจกรรมหลักๆ ก็มี การนั่งสมาธิ การเดินจงกลม การฝึกสมาธิด้วยการนับลูกประคำ ฉายวิดีทัศน์เกี่ยวกับพระคุณพ่อแม่ นักเรียนหลายคนซาบซึ้งในพระคุณพ่อแม่ถึงกับร้องไห้ออกมาก็มี สำหรับอากาศ 2 วันนี้ก็ถือว่าหนาวพอสมควร แต่ก็สังเกตพบว่านักเรียนต่างให้ความร่วมมือกับพระวิทยากรในการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี วันสุดท้ายท่านได้ให้พรและข้อคิดดีๆแก่พวกเรามากมาย และพวกเราต่างก็สัญญาว่า จะนำเอาความรู้ ประสบการณ์และแนวคิดที่ดีมากๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในโรงเรียนและในชีวิตประจำวันต่อไป .

ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนชั้น ม.6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552




ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนชั้น ม.6 ณ งานพืชสวนโลก และ เวียงกุมกาม
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2552



โดย ครูเอ้




พวกเราออกเดินทางจากโรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม เวลาประมาณ 08.30 น. มุ่งหน้าสู่งานพืชสวนโลกหรือบริเวณจัดงานราชพฤกษ์ 2549 ต.แม่เหี๊ยะ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยมีภาระงานที่ต้องทำคือ หาชื่อต้นไม้ จำนวนคนละ 10 ชนิด พร้อมทั้งบอกสรรพคุณต่างๆ ของพืชชนิดนั้นๆด้วย พวกเราก็แยกย้ายกันไปตามสวนประเทศต่างๆ ถ่ายรูปกันเยอะแยะมากมายหลายรูป แต่ก็ไม่ลืมที่จะหาชื่อพืชที่ครูสั่งให้ทำ พอได้เวลาพอสมควรก็ประมาณ 11.00น. เราก็ต้องเดินทางต่อไปเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า และให้นักเรียนเดินช็อปปิ้งได้ ก็ถือว่าเป็นการศึกษาวิถีชีวิตอย่างหนึ่งของคนเชียงใหม่ พวกเราใช้เวลาที่นี่จนถึงเวลาประมาณ 13.30 น. พวกเราหลายคนไปรอที่รถแล้ว เพราะว่าเวลา 14.00 น. เราต้องเดินทางต่อไปยังเวียงกุมกาม
พวกเรามาถึงที่เวียงกุมกามประมาณ 14.30 น. ก่อนอื่นขอเล่าประวัติย่อๆ ของเวียงกุมกามพอสังเขปดังนี้ เวียงกุมกาม นครโบราณใต้ภิภพ เป็นเมืองโบราณ ที่พญามังราย (พ่อขุนเม็งราย) ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1829 โดยโปรดให้ขุดคูเวียงทั้ง 4 ด้าน ไขน้ำแม่ปิงให้ขังไว้ ในคูเมืองโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในเวียงกุมกามและใกล้เคียง เป็นเวียง (เมือง) ทดลองที่สร้างขึ้น ก่อนที่จะมาเป็นเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีระยะห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตรเวียงกุมกามล่มสลายลงเพราะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยช่วงเวลานี้อยู่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2101 - 2317 ซึ่งตรงกับสมัยพม่าปกครองล้านนา พม่าปกครองล้านนาเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่กล่าวถึงเวียงกุมกามทั้งๆที่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้เป็นเรื่องร้ายแรงมากและสมควรที่จะบันทึกไว้ แต่ก็ไม่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ใดเลย ผลของการเกิดน้ำท่วมนี้ทำให้เวียงกุมกามถูกฝังจมลงอยู่ใต้ตะกอนดินจนยากที่จะฟื้นฟูกลับมา สภาพวัดต่างๆ และโบราณสถานที่สำคัญเหลือเพียงซากวิหารและเจดีย์ร้างที่จมอยู่ดินในระดับความลึกจากพื้นดินลงไปประมาณ 1.50 -2.00 เมตร โดยวัดที่จมดินลึกที่สุดคือวัดอีค่าง รองลงมาคือ วัดปู่เปี้ย และวัดกู่ป่าด้อม พวกเราจุดธูปเทียนสักการะพระพุทะรูปและสิ่งศักดิ์ต่างๆ พร้อมทั้งนั่งรถรางชมสิ่งปลูกสร้างภายในเวียงกุมกามพร้อมทั้งมีพี่มัคคุเทศก์อธิบายประวัติให้ฟังตลอดทาง เราก็ได้ความรู้และรับทราบถึงประวัติความเป็นมาอย่างละเอียดและก็ทำให้เราทราบว่า เมืองเล็กใกล้ๆ บ้านเราก็เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เวลาประมาณ 16.00 น. พวกเราก็เดินทางกลับโรงเรียนบ้านแป้นพิทยาคม โดยสวัสดิภาพ .